รวม 100 เรื่อง ภาษาอังกฤษ น่ารู้

วันที่: 2013-10-01 11:21:15.0

การแนะนำตัวของคนที่ใช้ภาษาอังกฤษ คำพูดที่ใช้ในการแนะนำตัวก็คือ Hello หรือ Hi ก็ได้ แล้วตามด้วยการพูดแนะนำตัว หรือทักทายพูดคุยเรื่องที่สนใจ ทำความรู้จักชื่อกัน หรืออะไรก็แล้วแต่สถานการณ์ ดังนั้นนอกจากเราจะเข้าใจประโยคทักทายแล้วเราจำเป็นต้องสามารถพูดสนทนาต่อไปได้ด้วย อย่างเช่นการแนะนำตัวเอง My name is ....
เจอคำย่อหลายประเภทไม่รู้ว่าจะออกเสียงอย่างไร I Will ย่อว่า I'll อ่านว่า อายโอ็ลฺ , You Will ย่อว่า You'll อ่านว่า โยลฺ , We Will ย่อว่า We'll อ่านว่า วีลฺ , They Will ย่อว่า They'll อ่านว่า เดโอ็ลฺ , He Wil ย่อว่า He'll อ่านว่า ฮีลฺ , She Wil ย่อว่า She'll อ่านว่า ชีลฺ , It Will ย่อว่า It'll อ่านว่า อิทโด็ลฺ / I Would ย่อว่า I'd อ่านว่า อายดฺ , You Would ย่อว่าYou'd อ่านว่า ยูดฺ , We Would ย่อว่า We'd อ่านว่า วีดฺ , They Would ย่อว่า They'd อ่านว่า เดดฺ , He Would ย่อว่า He'd อ่านว่า ฮีดฺ , She Would ย่อว่า She'd อ่านว่า ชีดฺ , It Would ย่อว่า It'd อ่านว่า อิท-ดิด
การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ จะมีทั้งแบบ American English และ British English จะมีวิธีในการเรียนที่แตกต่างกันไป ควรรู้ไว้สักนิดนึง แบบ British จะมีเรื่องของการใช้เลข 1 ถึงเลข 12 และตามด้วย a.m. (หลังเที่ยงคืน) p.m. (หลังเที่ยงวัน) ส่วนแบบ American จะใช้ระบบเวลาเป็น 24 ชั่วโมง เรียกตามตัวเลขไปเลย ง่ายต่อการใช้งานมากกว่า เช่น 3ทุ่ม15นาที ก็เป็น thirty fifteen ประมาณนี้
การกล่าวคำขอบคุณหรือขอโทษในภาษาอังกฤษ ซึ่งง่ายๆเลยที่เราได้เรียนมาก็คือ thank you / i'm sorry. ซึ่งนั่นก็เป็นการกล่าวสั้นๆ เราต้องมีประโยคต่อท้าย ซึ่งก็จะมีลักษณะเหมือนกับการพูดภาษาไทยนั่นก็คือ ขอบคุณ..ที่ช่วยเหลือ / ขอโทษที่ให้รอนาน เป็นต้น ในการใช้ภาษาอังกฤษให้ถูกต้องก็ควรเป็นประโยคที่มีเหตุมีผลเหมือนการพูดไทยครับ อย่างเช่น Thank you for your help ขอบคุณที่ช่วยเหลือ I'm sorry.I'm late ขอโทษครับทีมาสาย
ปัญหาที่คนไทยยังไม่สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษอย่างแท้จริง นั่นก็คือ รู้ศัพท์ แต่ไม่สามารถที่จะนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง อย่างเช่นคำเหมือน-คล้ายของภาษาอังกฤษ หรือการไม่รู้ว่าจะเรียงลำดับไวยากรณ์อย่างไรดี หรือเมื่อเราพูดออกไปแล้วฝรั่งงง ไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุใด ??
เทคนิคในการจดจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษ จะเรียกว่าเป็นการท่องจำก็ได้น่ะครับ แต่แค่นั้นยังไม่พอ การที่เราจะคำศัพท์ได้เร็ว จำแม่นยังต้องอาศัยประสบการณ์ในการใช้งานนั้นๆ หัดพูด หัดอ่าน หัดเขียน หาประสบการณ์ในการฟังศัพท์นั้นซ้ำๆ ลองนึกประโยคที่จะใช้ศัพท์เหล่านั้นพูดตามสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงการทำการบ้านให้มากขึ้น ฝึกฝนตัวเองให้มากขึ้น เป็นต้น
ภาษาอังกฤษอย่างเจ้าของภาษา เราก็ต้องมาจำแนกกันอีกว่าจะใช้ภาษา หรือสำเนียงของอังกฤษแท้ๆ หรืออเมริกันดี เพราะคุณอาจจะเคยได้ยินมาว่า2อย่างนี้พูดไม่เหมือนกัน เลือกใช้คำศัพท์แตกต่างกันไป จนบางครั้งคนที่เป็นภาษาอังกฤษก็ฟังอังกฤษสำเนียงอเมริกันได้ยากเหมือนใคร ใครที่เคยมีประสบการณ์ก็คงจะทราบกันดี...
อยากจะเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง จะต้องประกอบไปด้วย เรียนรู้คำศัพท์มากๆ หัดใช้ภาษาอังกฤษทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ว่าจะเป็น ฟัง พูด อ่าน เขียน แปล มีเพื่อนมีกลุ่มที่สนใจการใช้ภาษาอังกฤษด้วยกัน หาเวลาว่างทุกวัน ในการหาความรู้เพิ่มเติมเรื่องของการใช้ภาษาอังกฤษ หัดในสิ่งที่ยากขึ้น ก็จะเก่งขึ้นตามลำดับเอง
การเขียน จะทำให้คุณนั้นจดจำได้แม่นยำขึ้น และฝังใจในการจดจำรูปแบบการใช้งานภาษาอังกฤษ หรือแม้จากการจดจำคำศัพท์ก็ตาม เมื่อทุกครั้งที่เราได้ยินคำศัพท์ใหม่ การกระตุ้นของตัวเราก็คือความสนใจ และความตั้งใจของเรา จินตนาการทุกอย่างให้เราสามารถเรียนรู้เข้าไปอย่างทีละเล็กทีละน้อยจนเราสะสมความสามารถของเราได้ระดับหนึ่ง แล้วก็ไม่ลืมที่จะทบทวนหลายๆอย่งที่อาจจะเก่าไปไม่เคยได้ใช้ โดยการเขียนขึ้นมา นับว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจอีกวิธีหนึ่ง
การที่คนๆนึงจะเก่งภาษาอังกฤษได้ก็ขึ้นอยู่กับสาเหตุและการฝึกฝนที่แตกต่างกัน บางครั้งได้รับการฝึกฝนมาไม่เหมือนกัน แตกต่างกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือความสนใจและความรัก ความต้องการในการเรียนเป็นพิเศษ แต่หากไม่มีเหตุผลจูงใจเหล่านี้ เราก็อาจจะหาเหตุผลความจำเป็นบางอย่างเป็นแรงขับเคลื่อนผลักดันให้ตัวเราอยากที่จะเรียนภาษาอังกฤษให้มากขึ้นให้ได้